วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บุญที่ให้ผลในชาติปัจจุบัน


วันนี้อาตมาจะเทศน์เรื่อง “ บุญที่ให้ผลในชาติปัจจุบัน ” 
คำว่าบุญ แปลแบบไทย ๆ ว่าความดี ความสะอาดแห่งจิต 

เวลาให้ของแก่พระสงฆ์เรียกว่าทำบุญ ส่วนการทำบุญในพุทธศาสนาเรียกว่าทำบุญ 
ส่วนการทำบุญในพุทธศาสนามีอยู่ด้วยกันมากมายหลายวิธี
 แต่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในธรรมะเรียกว่า บุญกริยาวัตถุ 3 ซึ่งประกอบด้วย
ทาน ศีล ภาวนา เคยมีคนถามอาตมาว่า
เกิดมาเป็นคนยากจนไร้ทรัพย์จะทำบุญอย่างไร

อาตมาก็ตอบเขาไปว่าการทำบุญ ไม่จำเป็นต้องมีทรัพย์สินเงินทอง 
ก็สามารถที่จะร่วมทำบุญได้ แถมยังประหยัดอีกด้วยนั่นคือ
 การรักษาศีลและการเจริญภาวนา ซึ่ง 2 อย่างนี้
จะได้อานิสงส์ผลบุญมากกว่าการให้ทานเสียอีก
เพียงแต่ญาติโยมมองข้ามกันไป  โยมมักจะคิดทำบุญแต่การให้เท่านั้น
เพราะว่ามันง่ายดี  แต่การรักษาศีลและภาวนา ต้องเสียสละเวลาในการปฏิบัติ
จึงรู้สึกว่าทำยากกว่า การทำบุญทุกอย่าง 

โยมต้องเข้าใจด้วยว่าเพียงแต่เราตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะทำบุญเท่านั้น 
โยมก็ได้กุศลแล้ว

แต่บุญที่ได้รับยังเป็นส่วนน้อย ถ้าอยากได้บุญเต็มที่ต้องทำบุญให้ครบ 3 อย่าง

•  ทาน คือ การให้ ถ้ามีเงินทองมากก็ทำมาก มีเงินน้อยก็ทำน้อยตามกำลังตน
ถ้าไม่มีเงินทองใช้แรงกายก็ให้เป็นทานได้

•  ศีล พวกท่านทั้งหลายสังเกตหรือไม่ว่าเวลาที่ญาติโยมจะมาทำบุญ 
ทำไมพระท่านถึงให้พวกญาติโยมรับศีลก่อน เพราะท่านต้องการที่จะทำให้
ผู้ให้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ เมื่อทำบุญขณะนั้นก็จะได้รับผลเต็มกำลัง

จริงอยู่ที่บางคนไม่อาจถือศีลได้ตลอดเวลา อาจเป็นเพราะหน้าที่การงาน
ทำให้ต้องผิดศีล

 แต่เราก็สามารถที่จะถือศีลได้ในขณะที่เรานอนในเวลากลางคืน
และถือได้ครบทั้ง 5 ข้อด้วย

เพียงแต่เราอาราธนารับศีลทั้ง 5 ด้วยตนเองที่หน้าพระพุทธรูปที่บ้าน 
ซึ่งถือว่าเป็นการทำบุญที่ง่ายมากได้รับผลเต็มกำลัง ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ 
จิตใจเต็มไปด้วยความเมตตากรุณา แต่ถ้าเกิดเราต้องตายในขณะนั้น
ก็ส่งผลให้เราไปสู่สุคติทันที


•  ภาวนาหรือการสวดมนต์ 
คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่า การภาวนาสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามาก
แต่ความจริงแล้วการสวดมนต์ภาวนา มีประโยชน์อย่างมากมาย 
เพราะการสวดมนต์ภาวนาเป็นการกล่าวถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ 
การสวดมนต์ภาวนาด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ และใช้สติพิจารณาเกิดเป็นปัญญา 
เป็นความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์ภาวนา
ทำให้บรรลุไปสู่พระนิพพาน


“ หัวใจของการทำบุญทุกครั้ง ” 
ขอให้ญาติโยมจงแผ่เมตตา และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลทุกครั้งตามนี้

“ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนาม
ทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้นเทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก 
อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน 
และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ 
ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณและสรรพสัตว์ทั้งหลาย 
ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า 
ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย 
อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม 
จงโมทนาในส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน 
ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ ”


บุญที่ทำไปจะส่งผลให้ได้รับบุญในชาติปัจจุบันทันที
 ไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้ากันหรอกนะจ๊ะ ขอเจริญพร
 
 

จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต พรหมรังสี 

บทสวดสมาทานศีล 5


คำบูชาพระ
อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ
คำนมัสการพระรัตนตรัย
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ(กราบ)
พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์ดับเพลิงกิเลส
เพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ข้าพเจ้าขออภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน (กราบ)
สะวาขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ(กราบ)
พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า,
ตรัสไว้ดีแล้ว , ข้าพเจ้าขอนมัสการ พระธรรม (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ(กราบ)
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า,
ปฏิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระสงฆ์ (กราบ)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คำขอขมาพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า 3 จบ)
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
(ถ้าหลายคนว่า … ขะมะตุโน ภันเต ฯลฯ)


หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย 
อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม
และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีด้วยทางกายก็ดี หรือวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี 
และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี 
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ 
พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า 
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คำอาราธนาศีล 5
มะยังภันเต วิสุงวิสุง รักขะนะธายะ ติสะระเน นะสะหะ ปัญจะ ศีลานิยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 พร้อมกับสรณะ 3)
ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุงวิสุง รักขะนะธายะ ติสะระเน นะสะหะ ปัญจะ ศีลานิยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ แม้นในวาระที่ 2 ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 พร้อมกับสรณะ 3)
ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุงวิสุง รักขะนะธายะ ติสะระเน นะสะหะ ปัญจะ ศีลานิยาจามะ
(ท่านผู้เจริญ แม้นในวาระที่ 3 ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอศีล 5 พร้อมกับสรณะ 3)

(ถ้าคนเดียวเปลี่ยนจากคำว่า "มะยัง" เป็น "อะหัง" และ "ยาจามะ" เป็น "ยาจามิ")
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////

สมาทานศีล๕
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ
(ว่า ๓ จบ)
(ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ผู้ไกลจากกิเลสควรแก่การกราบไหว้บูชา
เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้ด้วยพระองค์เอง ฯ)
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
(ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
ข้าพเจ้าขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก)
ทุติยัมปิ    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
(แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๒ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก)
ตะติยัมปิ   พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ   ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ   สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
(แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก
แม้วาระที่ ๓ ข้าพเจ้าก็ขอยึดเอาพระสงฆ์เป็นที่พึ่งที่ระลึก)
ปาณา ติปาตา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)
อทินนา ทาณา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการลัก ,ฉ้อ ของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลัก ฉ้อ)
กาเม สุมิฉา จารา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม)
มุสา วาทา เวระมณี สิกขา ปะทังสะมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการพูดเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวง อำพรางผู้อื่น)
สุราเมระยะ มัชชะปะมา ทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สมาธิยามิ
(ข้าพเจ้าสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ เว้นจากการดื่มสุรา เมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่างๆ)
อิมานิ ปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ(3 ครั้ง)
(ข้าพเจ้าขอทรงไว้ซึ่งศีลทั้งห้าประการด้วยจิตตั้งมั่น)(3 ครั้ง)
(พระสวดรับรองว่า)
ศีเลนะสุขคติงยันติ 
(ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ถึงความสุข) (ผู้ขอพึงรับ สาธุ )
ศีเลนะโภคะสัมปะทา 
(ศีล นั้นจักเป็นเหตุให้ได้มาซึ่ง โภคทรัพย์) (ผู้ขอพึงรับ สาธุ )
ศีเลนะนิพพุติงยันติ 
(และศีลนั้นยัง จะเป็นเหตุให้ได้ไปถึง นิพพาน คือความดับเย็นจากกิเลศ เครื่องเศร้าหมอง ทั้งปวง)
ตัสสมา ศีลัง วิโสทะเย 
(ศีล จึงเป็นสิ่งที่วิเศษนักที่เธอทั้งหลายพึงยึดถือเป็นหลัก ประจำชีวิต ประจำจิตใจ ปฏิบัติ ให้ได้ ดังนี้ แล) (ผู้ขอพึงรับ สาธุ )


///////////////////////////////////////////////////////////////////////////



บัดนี้ข้าพเจ้า... ตั้งใจรักษาศีลแล้ว, บัดนี้ข้าพเจ้า... คือผู้มีศีล,
ข้าพเจ้าผู้มีศีล ละอาย ต่อการทำความชั่ว กลัว ต่อผลของบาปกรรม,
ข้าพเจ้าผู้มีศีล มีหิริโอตตัปปะ, มีกายเป็นมนุษย์ มีใจเป็นเทวดา,
เป็นมนุสสเทโว เข้าถึงความเป็นสหาย กับเหล่าเทวดาทั้งหลาย,
ขอ เทพ พรหม เทวดาทั้งหลาย ผู้เป็นสหายของข้าพเจ้า ร่วมโมทนาบุญ
และ เมตตา ปกป้อง คุ้มครองรักษา ข้าพเจ้า ด้วยเทอญ.........

และขอให้ข้าพเจ้า......(อธิษฐานตามอัธยาศัย และสมควรแก่เหตุ) เช่น
…จงเดินทางโดยสวัสดิภาพ
…จงได้รับความสำเร็จในการติดต่อการงาน
…จงขายดิบขายดีมีกำไรในการค้า
…จงเข้าถึงมรรค ผล นิพพาน ในชาติปัจจุบันโดยเร็วพลันเทอญ.


ราคาแผ่นพับบทสวดมนต์

แผ่นพับบทสวดมนต์ พกพาสะดวก ตัวหนังสือใหญ่
ขนาด 6 x 3 นิ้ว กางออกได้ 6 x 18 นิ้ว มี 16 หน้า 7 พับ 8 ตอน 
พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตการ์ดอย่างดี 160 แกรม เคลือบพีวีซีด้านป้องกันแสงสะท้อน 
พื้นครีมถนอมสายตา

ราคาแผ่นพับบทสวดมนต์
ราคาเล่มละ 13 บาท

เบอร์โทร: 081-563-5364
 Line ID : @nammon