วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธี “เปิดบุญ”


“ข้าพเจ้าขออาราธนากระแสบารมีของคุณพระพุทธคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
ได้ดลบันดาลบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันโดยส่งกระแสแห่งบุญของข้าพเจ้านี้ถึงแด่ เหล่าภูติผี ปีศาจ
เปรต อสูรกาย ยักษ์คนธรรม์   นาคา ครุฑ กุมพัน มาร กินรา
เทวดา-พรหมทั้งที่ดีและไม่ดี ยมบาล ยมฑูตเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย จุลินทรีย์
สัตว์ที่เคยฆ่า ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว นายเวรนายบุญ ทั้งที่อยู่ในตัวและรอบ ๆ ตัวของข้าพเจ้า
ทั้งที่อยู่ในตัวและรอบ ๆ ตัวของ …(ระบุชื่อพ่อแม่พี่น้องหรือใครก็ได้ที่ท่านต้องการจะช่วยเหลือให้ครบ)….
และที่อยู่ที่บ้านข้าพเจ้า ที่ทำงานข้าพเจ้าและในทุกเส้นทางที่ข้าพเจ้าได้เดินทางไปมา
ในแต่ละที่ขอให้พวกท่านทั้งหลาย  จงได้รับซึ่งกระแสแห่งบุญนี้โดยทั่วถึงกัน
เมื่อได้รับแล้วขอให้โมทนาบุญร่วมกันขอให้พวกท่านได้ตั้งจิตอธิษฐาน
นำผลบุญนี้ไปสู่ภพภูมิที่ดีและขอให้พวกท่านที่เป็นศัตรูในตัวข้าและร่างต่าง ๆ
ที่ท่านอาศัยอยู่จงได้กลับกลายมาเป็นมิตร  คอยคุ้มครองป้องกันผองภัยบันดาลให้ข้า
และพวกเขามีสุขภาพที่แข็งแรง เป็นคนดีมีศิลมีธรรม ……(อธิษฐานได้ตามที่ต้องการ
ซึ่งหากต้องการจะระบุให้ญาติเราคนไหนได้รับอะไรก็ขอให้อธิษฐานแยกออกมาเช่น
ขอให้พ่อของข้ามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้น เป็นต้น)…..

และในวันนี้ข้าจะขอ “เปิดบุญ” ให้พวกท่านได้รับกันโดยทั่วถึง
ดังนั้นตลอดทั้งวันนี้หากบุญใดจะเกิดขึ้นกับข้าไม่ว่าจะทางกาย
วาจา หรือใจก็ตาม ขออำนาจคุณพระพุทธคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
ได้ส่งกระแสบุญที่จะบังเกิดขึ้นส่งถึงพวกท่าน

อย่างทั่วถึงกันโดยขอให้พวกท่านแบ่งสายการเข้ารับบุญดังนี้

- ภูติ ผี ปีศาจ เปรต อสูรกายยักษ์ เข้ามารับบุญทางเบื้องล่างข้า
โดยขอให้มาเป็นแถว แถวใครแถวมัน ไม่แย่งกัน

- คนธรรม์ นาคา ครุฑ กุมพัน มาร เงือก กินรา
เข้ามารับบุญทางเบื้องซ้ายข้าโดยขอให้มาเป็นแถว แถวใครแถวมัน ไม่แย่งกัน

- สัตว์ที่เคยฆ่า เชื้อโรค แบคทีเรีย ไวรัส จุลินทรีย์เข้ามารับบุญเบื้องขวาข้า
โดยขอให้มาเป็นแถว แถวใครแถวมัน ไม่แย่งกัน

- ญาติที่ล่วงลับ เข้ามารับบุญเบื้องหลังข้า โดยขอให้มาเป็นแถวไม่แย่งกัน

- นายบุญ นายเวร เข้ามารับบุญเบื้องหน้าข้า
โดยขอให้มาเป็นแถว แถวใครแถวมันไม่แย่งกัน

- เทวดา พรหม ทั้งที่ดีและไม่ดี ยมบาล ยมฑูตเข้ามารับบุญเบื้องบนข้า
โดยขอให้มาเป็นแถว แถวใครแถวมัน ไม่แย่งกัน

เมื่อได้รับบุญกันแล้วขอให้ท่านจดจำสัญญาแห่งบุญเหล่านี้ไว้ แล้วบอกต่อ ๆกันไป
เพื่อให้ทราบกฎในการเข้ารับบุญจากข้านี้  และขอให้ท่านได้โมทนาบุญร่วมกัน
พร้อมตั้งจิตอธิษฐานนำผลบุญนี้นำพาท่านไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้นสิ่งลี้ลับใดรับบุญได้
ก็ขอให้ตั้งจิตรับบุญที่เกิดขึ้นนี้แต่หากสิ่งลี้ลับใดที่ไม่สามารถรับบุญได้ในทันที
ก็ขอบุญนี้จงแปลงเป็นอาหารถึงแก่พวกท่าน ให้ได้รับอย่างทั่วถึงกันและเมื่อรับบุญแล้ว
จงทำงานเพื่อเป็นการตอบแทนด้วยการเปลี่ยนจากศัตรูร้ายมาเป็นมิตรที่ดีให้กับข้า
และเจ้าของร่างที่ท่านอาศัยอยู่หรืออยู่รอบๆ ข้าง พร้อมทั้งช่วยคุ้มครองข้าและพวกเค้าให้ปลอดภัย
คลาดแคล้วจากภัยทั้งปวงให้มีสุขภาพที่แข็งแรงหายจากโรคภัยไข้เจ็บที่เป็นอยู่
ให้มีดวงตามองเห็นธรรม เป็นคนดีมีศิลมีธรรม ให้…….(อธิษฐานได้ตามต้องการ)

หากสิ่งลี้ลับกลุ่มใดไม่ทำงานหรือไม่พยายามทำงานพวกท่านก็จะไม่สามารถรับบุญจากข้าได้
ประตูบุญข้าจะถูกปิดอย่างอัตโนมัติ  หากสิ่งลี้ลับกลุ่มใดทำงานหรือพยายามทำงาน
ท่านก็จะได้รับบุญของข้าอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ  ขอให้แบ่งสายการเข้ารับกระแสบุญอย่างเป็นระเบียบ แถวใครแถวมัน ไม่แย่งกันไม่เอาเปรียบกัน ช่วยกันทำงาน  ไม่เกี่ยงกันทำงาน ไม่แย่งกันทำงาน
ในยามใดที่กลุ่มหนึ่งทำงานอยู่ ก็ขอให้ช่วยบอกอีกกลุ่มหนึ่งให้รอก่อนสักครู่
หากทำได้ตามนี้พวกท่านก็จะได้รับบุญที่เกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติและต่อเนื่องตลอดทั้งวันขอเทวดา
หรือพรหมผู้มีบุญญาธิการในตัวข้า 1 องค์ จงได้รับหน้าที่ในการเป็นผู้คอยควบคุมดูแล
การเข้ารับบุญของกลุ่มสิ่งลี้ลับทั้งหลาย พร้อมบอกกฎในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย
ให้แต่ละกลุ่มได้รับทราบโดยทั่วถึงกัน”

*** ขอให้ทุกท่านท่องอย่างนี้ทุกเช้า
เพื่อเปิดบุญไว้โดยต้องเอ่ยบอกให้สิ่งลี้ลับรับรู้ถึงกฏระเบียบในการเข้ารับบุญเพื่อไม่ให้แย่งกัน
หรือเอาเปรียบต่อกัน ดังนั้นตลอดทั้งวันเมื่อท่านสร้างความดีใด ๆก็แล้วแต่
บุญที่เกิดขึ้นก็จะถูกส่งถึงแด่สิ่งลี้ลับที่อยู่รอบตัวท่าน
และรอบตัวญาติๆ ท่าน (ที่ท่านได้ระบุไว้ข้างต้น) ให้ได้รับกระแสแห่งบุญนั้น ๆ อย่างทั่วถึงกัน
และเมื่อสิ่งลี้ลับต่าง ๆ ได้รับบุญแล้วเค้าก็จะตอบแทนท่านด้วยการทำงานตามที่ท่านต้องการ
ให้ทำโดยเป็นไปด้วยการทำอย่างมีศิลและธรรมในทางที่ดี นั่นเอง
ขอให้ทุกท่านสร้างสมความดีทุกวัน และเอ่ย “เปิดบุญ” ทุกเช้าเพื่อการสร้างความดีอย่างมีเมตตาที่ถึงพร้อม

สิ่งลี้ลับมีจริงเพียงแต่เรามองไม่เห็นเค้าเท่านั้นเอง การ “เปิดบุญ” “การโอนบุญ” และ “การเบิกบุญ” นี้
ได้รับคำชี้แนะจาก ครูบาอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านได้ตรวจสอบวิธีการนี้จากในพระไตรปิฏก
และได้นำมาบอกกล่าวญาติโยมซึ่งข้าพเจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับความเมตตาจากท่าน
และนำมาปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้  หมั่นปฎิบัติทุกวันเป็นประจำ สุขภาพของท่านและสมาชิกในครอบครัวจะดีขึ้นปัญหาที่เคยมีลดน้อยลงอย่างไม่น่าเชื่อ  จะทำให้ท่านมีกำลังใจที่จะสร้างสมความดีอย่างต่อเนื่องมากขึ้นแม้ไม่ต้องบริจาคทรัพย์มากมาย เพียงแต่คิดดีปรารถนาดีกับทุกคนบุญก็บังเกิดแล้ว
ทุกลมหายใจจงเป็นไปเพื่อการสร้างบุญ..สมบุญอยู่ตลอดเพื่อเป็นการส่งกระแสแห่งบุญนี้
ชดใช้ให้กับสิ่งลี้ลับต่าง ๆที่เราต่างได้เคยกระทำพวกเค้าไว้และเป็นการช่วยให้พวกเขา
ได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้นนั่นเอง ***


การ “โอนบุญ”

เป็นการส่งผลบุญในลักษณะที่รวดเร็ว (3 วินาที)และส่งถึงเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มสิ่งลี้ลับ
ที่เราต้องการจะให้บุญเค้าโดยตรงโดยบุญที่เราจะโอนให้นั้นมีด้วยกันหลายประเภทดังนี้

1.) บุญที่เกิดจากการทำทานด้วยการ “ให้” (ทุกอย่างที่เรียกว่าการให้) เช่น
ใส่บาตรถวายสังฆทาน บริจาคเงินเพื่อทำบุญ  ให้เงินช่วยเหลือคน
 ให้สิ่งของต่อกันให้อาหารสัตว์ ให้ธรรมทาน เป็นต้น

2.) บุญที่เกิดขึ้นเมื่อคิดดี พูดดีกระทำดี (ทุกอย่างที่ดีไม่ว่าจะเป็นการคิด การพูด หรือการกระทำ)
เช่นอนุโมทนาบุญกับผู้ที่ทำความดี ช่วยเหลือคนในทุกรูปแบบ (เช่น บอกเส้นทางตักน้ำให้ดื่ม
ช่วยแนะนำงาน ลุกให้คนแก่นั่ง ฯลฯ) การนั่งสมาธิ เป็นต้น

บุญจากการ “ให้” และ “การคิดดี-พูดดี-ทำดี” นี้จะเกิดภายใน 3 วินาทีเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อให้ทานหรือเมื่อคิดดี-พูดดี-ทำดีเมื่อไหร่ จึงต้องรีบส่งต่อผลบุญทันที
(ไม่ต้องกล่าวก่อนให้ หรือไม่ต้องกล่าวขณะให้แต่ให้กล่าวเมื่อเสร็จสิ้นการให้แล้ว)
ยกตัวอย่างเช่น
 เมื่อส่งของถึงมือผู้รับแล้วเมื่อไหร่ค่อยกล่าวโอนบุญเมื่อนั้น
ก่อนที่บุญของเราจะวิ่งขึ้นไปถูกเก็บไว้เบื้องบนโดยการส่งต่อผลบุญนั้นกล่าวได้ดังนี้

“บุญนี้ข้าพเจ้าขอให้กับ …….(เหล่าภูตผี ปีศาจ เปรต อสูรกาย ยักษ์ คนธรรม์ นาคา ครุฑ กุมพัน มาร เงือก
กินราสัตว์ที่เคยฆ่า เชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย จุลินทรีย์ ญาติที่ล่วงลับไปแล้วเทวดา-พรหมทั้งที่ดีและไม่ดี
ยมบาล ยมฑูต (การกล่าวโอนบุญให้กับสิ่งลี้ลับทั้งหมดในเวลา 3 วินาทีคงจะไม่ทันแน่นอนดังนั้นจึงควรเลือกกล่าว ให้สิ่งลี้ลับอย่างใดอย่างหนึ่ง ทยอยไปเรื่อย ๆจนครบจะดีกว่า).…..ประจำตัวของ……(ข้าพเจ้า)…... หรือ…….(พ่อ แม่ พี่ น้อง ฯลฯ)จะระบุเป็นชื่อหรือไม่ก็ได้)……”

ตัวอย่าง “บุญนี้ข้าพเจ้าขอให้กับ ….นายเวรและเทวดา…ประจำตัวของ…ข้าพเจ้า….”
 “บุญนี้ข้าพเจ้าขอแปลงเป็นอาหารให้กับ ….ภูตผี ปีศาจเปรต...ประจำตัวของ…นางสาว…(ระบุชื่อ)...”
 “บุญนี้ข้าพเจ้าขอให้กับ…...เทวดาและพรหม…ประจำตัวของ…พ่อแม่ข้าพเจ้า….”
 หมายเหตุ :กรณีโอนบุญให้กับภูติผี ปีศาจเปรต อสูรกาย ยักษ์ นั้น ต้องบอกนิดนึงว่า
ขอแปลงบุญนี้เป็นอาหารให้กับ…(ระบุ)….
 ตัวอย่าง “บุญนี้ข้าพเจ้าขอแปลงเป็นอาหารให้กับ ภูตผี ปีศาจ เปรตอสูรกาย ยักษ์
ประจำตัวของข้าพเจ้า” เป็นต้น
 * การ “โอนบุญ” บุญจะเกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว (3 วินาที) จึงต้องรีบกล่าวอย่างรวดเร็วและควรกล่าวเมื่อ
 “การให้หรือการคิดดีทำดีเสร็จสิ้นแล้ว” ไม่ต้องกล่าว “ก่อนให้” หรือ “ขณะที่ให้”
การโอนบุญจะเหมาะอย่างยิ่งกับสิ่งลี้ลับที่อยู่ภพภูมิต่ำ ๆ เช่น ภูตผี ปีศาจ เปรต อสูรกายยักษ์ นายเวร เป็นต้น

1. การ “เบิกบุญ”

ท่านสามารถกระทำได้ทุกเวลาที่ท่านว่างจากภารกิจหรือกิจการงานจะระบุให้สิ่งลี้ลับทุกกลุ่ม
หรือจะเลือกให้บางกลุ่ม  เป็นการเฉพาะเจาะจงก็ได้สามารถกล่าวทำได้มากกว่า 1 รอบ

* ใน 1 วันขอให้ทุกท่านได้กล่าว “เปิดบุญ” ในช่วงเช้า
และทำการกล่าว “เบิกบุญ” ในช่วงที่ท่านว่างจากภารกิจการงานและ

กล่าว “โอนบุญ” ในทุกครั้งที่ท่าน “ให้หรือมีการคิดดี พูดดี ทำดี” เกิดขึ้น
หากท่านทำได้ครบทั้ง 3 อย่างในทุก ๆ วัน จะทำให้สิ่งลี้ลับที่อยู่ในตัวท่านรวมถึงสิ่งลี้ลับที่อยู่ในตัวญาติพี่น้องท่าน
ที่ท่านได้กล่าวเรียกขานไว้แล้วเหล่านั้น  ได้รับบุญของท่านอย่างอัตโนมัติและต่อเนื่องตลอดเวลา
ส่งผลให้เกิดการอโหสิกรรมและเกิดการส่งกระแสในทางที่ดีถึงท่านและครอบครัวสืบต่อไป *

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้สร้างความดีอย่างถึงพร้อม

2. เมื่อมีการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทางกาย วาจา ใจ
- ทางกาย เช่น ไหว้พระ ไหว้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ลุกให้เด็ก/คนชรานั่งปฏิบัติในศิล 5 ศิล 8 เป็นต้น
(แม้เพียงแค่ศิลบริสุทธิ์ภายใน 1 นาทีก็เป็นบุญแล้ว)

- ทางวาจา เช่น พูดจาดีต่อกัน พูดให้เกิดประโยชน์ในทางที่ดีต่อกัน เช่นบอกทาง เป็นต้น
 - ทางใจ เช่น คิดดี จิตอยู่ในอาการนิ่งสงบ เป็นต้น
สิ่งข้างต้นที่กล่าวมานี้เป็นบุญทั้งสิ้นเมื่อเกิดขึ้นให้ขยันในการส่งบุญทันที (ภายใน 3 วินาที)
เช่นเดียวกันกับข้อ 1 โดยการส่งต่อผลบุญนั้นกล่าวได้ดังนี้
 “บุญนี้ข้าพเจ้าขอให้กับ ….(นายเวรภูตผี ปีศาจ เปรต อสูรกาย ยักษ์ คนธรรม์ นาคา กุมพัน ครุฑ มาร แบคทีเรีย ไวรัสเทวดา พรหม ที่เป็นญาติของข้าพเจ้า (อาจกล่าวทั้งหมดหรือเลือกกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้)……..ประจำตัวของ…(ข้าพเจ้า)…. หรือ…(พ่อแม่ พี่ น้อง ฯลฯ) จะระบุเป็นชื่อหรือไม่ก็ได้)……”

ตัวอย่าง “บุญนี้ข้าพเจ้าขอให้กับ ….นายเวรและเทวดา…ประจำตัวของ…ข้าพเจ้า….”
 “บุญนี้ข้าพเจ้าขอให้กับ ….ภูตผี ปีศาจเปรต...ประจำตัวของ…นางสาวสุกัญญา….”
 “บุญนี้ข้าพเจ้าขอให้กับ…...เทวดาและพรหม…ประจำตัวของ…พ่อแม่ข้าพเจ้า….”

3. การเบิกบุญจากสวรรค์มาใช้
อย่างที่กล่าวแล้วข้างต้นว่าบุญของแต่ละคนนั้นมีกันมากซึ่งส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้เบื้องบน เพื่อรอใช้กันในชาติหน้า บุญนี้ไม่มีวันหมดยิ่งให้ยิ่งเพิ่ม ดังนั้นเราสามารถเบิกบุญเหล่านั้นมาให้กับสิ่งต่าง ๆ (ในโลกทิพย์)ที่อยู่รอบ ๆ ตัวเราได้ตลอด

โดยสามารถกล่าวได้ดังนี้
 “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมา
ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบันโดยส่งกระแสบุญนี้ถึง ….(นายเวร ภูตผี ปีศาจ เปรต อสูรกาย ยักษ์ คนธรรม์ นาคากุมพัน ครุฑ มาร แบคทีเรีย ไวรัส เทวดา พรหม ที่เป็นญาติของข้าพเจ้า
(อาจกล่าวทั้งหมดหรือเลือกกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้)……..ประจำตัวของ…(ข้าพเจ้า)….
หรือ…(พ่อแม่ พี่ น้อง ฯลฯ)จะระบุเป็นชื่อหรือไม่ก็ได้)…… ขอให้ท่านช่วยให้……….(ระบุ)……………….”

ตัวอย่าง “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ได้บันดาลบุญ
ของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน โดยส่งกระแสบุญนี้ถึง….
นายเวรและเทวดา…ประจำตัวของ…ข้าพเจ้า….ขอให้ท่านช่วยให้…..ข้าพเจ้ามีความสุข…..”

ตัวอย่าง “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมา ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน โดยส่งกระแสบุญนี้ถึง….ภูตผี ปีศาจ เปรต…ประจำตัวของ…นายสุเทพ….” ขอให้ท่านช่วยให้…..นายสุเทพหายจากโรคภัยที่เป็นอยู่…..”

ตัวอย่าง “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมา ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน โดยส่งกระแสบุญนี้ถึง….เทวดาและพรหม…ประจำตัวของ…พ่อแม่ข้าพเจ้า….” ขอให้ท่านช่วยให้…..พ่อแม่ข้าพเจ้ามีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง…..”

4. การอบรมทางจิต
เป็นการช่วยเหลือคนที่อยู่รอบตัวเราที่อาจประพฤติปฏิบัติตนไม่ดีนักเราสามารถส่งกระแสจิตไปถึงบุคคลเหล่านั้น เพื่อให้เขามีนิสัยที่ดีขึ้นหรือตามลักษณะที่เราต้องการ (ในทางที่ดี) โดยการให้คิดบ่อย ๆ
เหมือนกับเราไปนั่งอยู่ตรงหน้าเขา  ตัวอย่าง “ขอให้แฟนข้าพเจ้าเลิกเจ้าชู้ ขอให้ลูกข้าพเจ้าตั้งใจเรียน” เป็นต้น

5. การนั่งสมาธิ เดินจงกรม
ก่อนนั่งสมาธิ หรือเดินจงกรมให้กล่าวอธิษฐานก่อนการปฏิบัติดังนี้
“ขออำนาจบุญกุศลที่เกิดขึ้นขณะภาวนาจงสำเร็จแก่ เจ้ากรรมนายเวรที่อยู่ภายใน/ภายนอกร่างกาย เทวดาประจำตัว ภูตผี ปีศาจเปรตอสูรกาย ยักษ์ คนธรรม์ นาคา กุมพัน ครุฑ มาร แบคทีเรีย ไวรัส เทวดา
พรหมที่เป็นญาติของข้าพเจ้า ที่อยู่บริเวณนี้ขอให้ท่านอย่าได้ขัดขวางการปฏิบัติภาวนาของข้าพเจ้า
และบุญที่จะเกิดจากนี้ขอให้พวกท่านได้รับโดยทั่วถึงกัน”

6. เวลาจิตใจหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน โกรธ กระสับกระส่ายทุกข์เกิดขึ้นที่จิต
นั่นหมายความว่ามีการส่งกระแสชั่วร้ายบางอย่างมาถึงท่านกระแสเหล่านั้นจะมาจาก
….(นายเวร ภูตผี ปีศาจ เปรต อสูรกาย  ยักษ์ คนธรรม์ นาคากุมพัน ครุฑ มาร
แบคทีเรีย ไวรัส เทวดาที่ไม่ดี พรหมที่ไม่ดี)ให้ตั้งจิตอธิษฐานกล่าวดังนี้
“ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรมคุณพระสงฆ์ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมา
ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบันโดยส่งกระแสบุญนี้ถึง …(นายเวร ภูตผี ปีศาจ เปรต อสูรกาย
ยักษ์ คนธรรม์ นาคา กุมพันครุฑ มาร แบคทีเรีย ไวรัส เทวดาที่ไม่ดี พรหมที่ไม่ดี)
(อาจกล่าวทั้งหมดหรือเลือกกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้)……..ประจำตัวของ…(ข้าพเจ้า)
….หรือ…(พ่อแม่ พี่ น้อง ฯลฯ)  จะระบุเป็นชื่อหรือไม่ก็ได้)……ขอให้ท่านช่วยให้อาการ….
(ระบุ)…ที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าระงับดับสิ้นลงด้วยเถิด”

ตัวอย่าง “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ได้บันดาลบุญ
ของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน โดยส่งกระแสบุญนี้ถึง….ยักษ์…
ประจำตัวของ…ข้าพเจ้า….ขอให้ท่านช่วยให้อาการ…. โกรธ…ที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าระงับดับสิ้นลงด้วยเถิด”

7. เวลาจิตใจสงบสุข เป็นสุข ปิติ ขนลุก อิ่มบุญ
นั่นหมายความว่ามีการส่งกระแสความดีบางอย่างมาถึงท่านกระแสเหล่านั้นจะมาจาก
เทวดาและพรหมในส่วนที่ดีที่เป็นญาติท่านส่งมาถึงท่านยิ่งถ้าเป็นนักปฏิบัติธรรมแล้ว
การได้สัมผัสอย่างนี้ต้องรีบส่งบุญตอบกลับทันทีเพราะเมื่อเค้าได้รับบุญแล้วเค้าจะอำนวยอวยพร
ให้การปฏิบัติของท่านเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไปให้ตั้งจิตอธิษฐานกล่าวดังนี้

ตัวอย่าง “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้า
ที่เคยสร้างสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน โดยส่งกระแสบุญนี้ถึง….เทวดาและพรหม
ที่เป็นญาติของข้าพเจ้า…ขอให้ท่านช่วย ให้ ……(ระบุ)เช่น การปฏิบัติธรรมของข้าพเจ้า
เจริญก้าวหน้าขึ้น เป็นต้น…….”

8. เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย
นั่นหมายความว่าเจ้ากรรมนายเวรของท่านได้ส่งกระแสบางอย่างมาถึงท่านตามอวัยวะของท่าน
เพื่อกระตุ้นให้ท่านส่งบุญชดใช้พวกเค้า ท่านสามารถตั้งจิตอธิษฐานกล่าวได้ดังนี้
ตัวอย่าง “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์
ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมา
ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติ ปัจจุบันโดยส่งกระแสบุญนี้ถึงเจ้ากรรมนายเวรที่มาเบียดเบียน
ข้าพเจ้า….(ระบุอวัยวะเช่นที่ท้องข้าพเจ้า)….ขอให้อาการเจ็บปวดเหล่า นั้นจงหายไปในทันที”

9. ก่อนจะนอนหลับท่านสามารถตั้งจิตอธิษฐานกล่าวได้ดังนี้
ตัวอย่าง “ขออัญเชิญเทวดาที่อยู่ประจำตัวข้าพเจ้าได้ช่วยคุ้มครองให้ข้าพเจ้านอนหลับด้วยความปลอดภัย
ก่อให้เกิดสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีเมื่อยามตนและเทวดาประจำตัวของข้าพเจ้าท่านใดที่เก่งในด้านการรักษา
ขอเชิญท่านได้เข้าสู่ร่างกายข้าพเจ้าเพื่อทำการรักษาโรคภัยที่มีอยู่ในกายของข้าพเจ้าด้วย
เถิดอันเมื่อท่านได้ทำแล้ว ข้าพเจ้าก็ขอส่งกระแสแห่งบุญของข้าพเจ้าถึงแด่ ท่านโดยทันที”

10. ก่อนเดินทางออกจากบ้านไปที่ทำงาน/ที่ใดๆ
หรือแม้แต่การเดินทางจากที่ทำงาน/ที่ใด ๆ กลับบ้านก็ตามท่านสามารถตั้งจิตอธิษฐานกล่าวได้ดังนี้
ตัวอย่าง“ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้าที่เคยสร้างสมมา ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติ ปัจจุบันโดยส่งกระแสบุญนี้ถึงเหล่า เทวดา พรหม ภูตผี ปีศาจ เปรต อสูรกาย ยักษ์ คนธรรม์ นาคากุมพัน ครุฑ มาร แบคทีเรีย ไวรัส ที่ข้าพเจ้า กำลังจะผ่านไปนี้ให้ได้รับซึ่งกระแสแห่งบุญโดยทั่วถึงกัน ท่านใดสามารถรับได้ขอให้มาเตรียมการรอรับได้เลย”

11. ทุกครั้งที่มีการพลาดด้วยการเผลอฆ่าสัตว์ไปจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม
ท่านต้องพึงระลึกในการส่งกระแสบุญโดยทันทีแม้จะผ่านมาแล้วแต่ยังนึกได้หรือไม่ก็ตามในแต่ละวัน
ท่านต้องดำเนินการส่งให้เป็นนิสัยโดยท่านสามารถตั้งจิตอธิษฐานกล่าวได้ดังนี้
ตัวอย่าง “ขออาราธนาบารมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ได้บันดาลบุญของข้าพเจ้า
ที่เคยสร้างสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงชาติปัจจุบัน โดยส่ง กระแสบุญนี้ถึงเหล่าสรรพสัตว์
(จะระบุประเภทสัตว์เลยก็ได้) ที่ข้าพเจ้าได้ เคยฆ่าหรือมีส่วนฆ่าให้ได้รับผลบุญนี้ด้วยเทอญ”

“ ท่านทั้งหลายลองเอาไปปฎิบัติดู
เหมือนมีคนเอาผลไม้มาให้ชิมบอกว่าหวาน
เราไม่ชิม จะรู้ได้อย่างไรว่าหวาน”

อนุโมทนาบุญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น