วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สร้างโปรแกรมสิ่งดีๆให้กับจิตสำนึก ทำได้..ทุกวัน



ก่อนที่จะแนะนำเทคนิคในการดำเนินชีวิตเพื่อให้จิตใต้สำนึกได้รับแต่ข้อมูลดีๆ
อ.อมรา ตัณฑ์สมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสะกดจิตบำบัดและการโปรแกรมจิตใต้สำนึก
ได้อธิบายเกี่ยวกับจิตใต้สำนึกไว้ว่า
"จิตใต้สำนึกเป็นเรื่องที่ธรรมดาสามัญ เป็นเรื่องปกติธรรมดาในชีวิต
ไม่ใช่เรื่องปาฏิหารย์หรืออภินิหารใดๆ เป็นสิ่งต่าง ๆ ที่เราทำได้โดยอัตโนมัติทั้งหมด
ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ ๆ ที่ร่างกายดำเนินไปโดยอัตโนมัติ
เราล้วนทำได้เพราะสิ่งที่ฝังอยู่ในจิต  
แต่เพราะจิตใต้สำนึกรับทุกอย่างไว้โดยไม่ได้ตัดสินถูกผิด
ดังนั้นเราต้องระมัดระวัง ไม่ให้ความคิดหรือข้อมูลที่ไม่ดีฝังลงไปในจิตใต้สำนึก
เพราะจิตใต้สำนึกสะสมสิ่งต่าง ๆไว้มากมาย
มันมีพลังมากจนบางครั้งสามารถบังคับร่างกายเราได้ " 
   
     อ.อมรา ตัณฑ์สมบูรณ์ ได้แนะนำวิธีการดำเนินชีวิตตั้งแต่เช้าจรดเย็น
เพื่อป้อนข้อมูลใหม่ที่ดีให้กับจิตใต้สำนึกทุกวัน และปกป้องจิตใต้สำนึกจากข้อมูลที่ไม่ดี ดังนี้ ......

     ตื่นนอน
     ช่วงที่ตื่นนอนใหม่ ๆ สมองอยู่ในช่วงอัลฟ่า คลื่นอัลฟ่าเป็นช่วงที่คลื่นสมองความถี่ต่ำ
คล้ายคลื่นสมองของคนกำลังนั่งสมาธิ เป็นช่วงที่ทำให้สมองเรารับรู้สิ่งต่างๆ เข้าสู่จิตใต้สำนึกได้เร็วมาก
ไม่มีการคัดกรอง ช่วงที่ตื่นนอนใหม่ ๆ ลืมตามา ควรคิดแต่สิ่งดี ๆ พูดสิ่งดี ๆ กับตนเอง
พูดสิ่งที่เราอยากจะเป็น เช่น "วันนี้ราบรื่น" "วันนี้จะเป็นวันที่ดีสำหรับเรา"  
 เสร็จแล้วก็ อาบน้ำ ทำกิจวัตรต่าง ๆ ไม่ควรอ่านหนังสือพิมพ์หรือเปิดดูข่าวเป็นสิ่งแรกของวัน
เพราะในข่าวมักจะมีข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี เมื่อร่างกายและสมองตื่นตัวเต็มที่
จึงค่อยเปิดรับข้อมูลข่าวสาร เช่น หากคุณตื่นนอน 7 โมงเช้า อาจจะไปอ่านหนังสือพิมพ์
เปิดดูข่าวในช่วงประมาณ 9 โมงเช้า

     หลังรับประทานอาหารกลางวัน
     ช่วงนี้หนังท้องตึง หนังตาหย่อน รู้สึกง่วง
ช่วงนั้นจะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่เราจะเข้าสู่ภาวะจิตใต้สำนึก ภาวะอัลฟ่าได้
เป็นอีกช่วงที่ไม่น่าอ่านข่าวร้ายหรือรับรู้ข้อมูลเครียดใด ๆ ช่วงนี้เราควรจะผ่อนคลาย
หลังอาหารเที่ยงเราอาจจะนั่งสมาธิหรือหลับตาเงียบ ๆ คิดสิ่งดี ๆ ประมาณ 5-10 นาที
จะช่วยชาร์จพลังงานให้ร่างกายและจิตใจ
เราจะตื่นขึ้นมาแล้วสดใส ทำงานต่อในช่วงบ่ายได้ดี

     ช่วงเย็นหลังรับประทานอาหารเย็น
     ช่วงนี้หลายคนมักจะนั่งสบาย ๆ ดูละคร ถ้าละครนั้นเป็นละครรันทดเศร้าหมอง
คุณไม่รู้หรอกว่า คนที่ดูจะซึมซับความรันทดจากในละครเข้าไปในชีวิตมากแค่ไหน
แต่จากที่ทำสถิติเรื่องนี้มา 20 ปี มันมีผลจริง ๆ มีคนชอบนั่งดูละครรันทดใจ
แล้วชีวิตในหลาย ๆ ปีต่อมาก็เป็นอย่างในละครจริง ๆ หลังรับประทานอาหารเย็น
จึงควรเป็นลักษณะของการคุยอะไรที่เป็นเชิงบวก ทำกิจกรรมสบาย ๆ กับครอบครัว
หรือทำอะไรดีๆ ให้กับตนเอง 
     ในช่วงรับประทานอาหารเย็นพ่อแม่ไม่ควรตำหนิลูก
ควรจะให้ช่วงเวลารับประทานอาหารเย็นเป็นช่วง ที่เปิดรับสิ่งดี  ๆ  
ถ้าเราเอาอะไรที่ไม่ดีไปใส่ในช่วงนี้จะมีผลกับเด็กมาก
หากจะตำหนิหรือสั่งสอนลูกควรทำในช่วงเวลาอื่น ๆ

     ช่วงอาบน้ำ
     เป็นอีกช่วงที่เราจะรู้สึกผ่อนคลาย และเราจะอยู่ในภาวะอัลฟ่า
ในช่วงนี้ควรจะคิดแต่สิ่งดี ๆ คิดเรื่องดี ๆ รู้สึกขอบคุณชีวิตที่ผ่านมาตลอดวัน

     ก่อนนอน
     ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้นอนดูข่าวภาคดึกในลักษณะเอนตัว
เพราะท่านอนในลักษณะเอนตัวจะทำให้คลื่นสมองเราปรับไปเป็นอัลฟ่าได้
แล้วในข่าวภาคดึกมักจะเป็นข่าวอาชญากรรมหรือข่าวอุบัติเหตุ
เราจะซึมซับข่าวร้ายหรือดีนั้นเข้าไปในจิตใต้สำนึก
ถ้าจำเป็นจะต้องดูข่าวภาคดึกก่อนนอนจริง ๆ ให้นั่งตัวตรง ตั้งใจดู
แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ คือก่อนนอนควรทำอะไรที่สบายใจ ทำสิ่งที่ผ่อนคลาย
หรือฟังเพลงบรรเลงเบาๆ ก่อนนอน อ่านหนังสือที่มีรูปภาพสวย ๆ หรือสวดมนต์ก่อนนอนก็ได้

     จิตใต้สำนึกมีความสำคัญต่อชีวิตของเราในแบบที่บางครั้งเราอาจจะคาดไม่ถึง
แต่หากจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ให้เห็นภาพ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เกิดขึ้นจากความคิดของคนเราทั้งสิ่น
ดังนั้นจิตใต้สำนึกจึงเป็นพื้นฐานสำหรับชีวิตทุกๆ ด้านของเรา ควรดูแลจิตใต้สำนึกให้ดีทุก ๆ วัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น