วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

บูชาท้าวเวสสุวรรณอย่างไรให้เฮง


ท้าวเวสสุวรรณ (ท้าวกุเวร)
ท้าวเวสสุวรรณหรือท้าวกุเวรเป็นเทพหรือยักษ์ที่ปรากฏอยู่ทั้งในศาสนาพุทธและพราหมณ์และมี
ผู้ นิยมกราบไหว้กันมาก ตามคติความเชื่อทางศาสนาพุทธกล่าวไว้ในพระสูตรที่ชื่อว่า อาฏานาฏิยะว่า ท้าวกุเวรเป็นหนึ่งในท้าวจตุมหาราชผู้ครองสวรรค์ชั้น จตุมหาราชิกา (สวรรค์กามาวจร ชั้นที่ 1)

ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณนั้นยังมีชื่ออีกหลายชื่อ เช่น ธนบดี หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ ธเนศวรหมายถึง ผู้เป็นเจ้าแห่งทรัพย์  ชื่ออื่นๆคือ อิจฉาวสุหมายถึง ความมั่งมีได้ตามใจ  ชื่อ ยักษ์ราชอันหมายถึง เจ้าแห่งยักษ์  หรือชื่อมยุราช หมายถึง เป็นเจ้าแห่งกินนร  ชื่อรากษเสนทร์ หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ในพวกรากษสส่วนในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เรียกท้าวเวสสุวรรณว่า ท้าวกุเรปัน เป็นต้น
ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอดีตชาติของท้าวกุเวร เอาไว้ใน พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 3 ภาค 2 หน้าที่ 151 ว่า ในสมัยที่โลกยังว่างจากพระพุทธศาสนาไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัติ ขึ้นในโลกนั้น มีพราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า กุเวรเป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ประกอบอาชีพสุจริต ด้วยการทำไร่อ้อยแล้วนำต้นอ้อยมาตัดใส่ลงไปในหีบยนต์เพื่อบีบน้ำอ้อยขาย เลี้ยงชีวิต
ต่อมากิจการได้เจริญขึ้นจนเป็นเจ้าของหีบยนต์สำหรับบีบน้ำอ้อยถึง 7 เครื่อง จึงสร้างที่พักสำหรับ คนเดินทางและได้บริจาคน้ำอ้อยจากหีบยนต์เครื่องหนึ่งซึ่งมีปริมาณน้ำอ้อย มากกว่าหีบยนต์เครื่องอื่น ๆ ให้เป็นทานแก่คนเดินผ่านไปมาจนตลอดอายุขัย
ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานนั้นทำให้หนุ่มกุเวรผู้ นี้ได้ไปเกิดเป็นเทพบุตร บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีนามว่ากุเวรเทพบุตรต่อมากุเวรเทพบุตรได้รับการเทวาภิเษก (ขึ้นครองราชย์)เป็นผู้ปกครองดูแลพระนครสวรรค์ชั้นที่ 1ด้านทิศเหนือจึงได้มีพระนามว่า ท้าวเวสสุวรรณ
ตามหลักฐานในคัมภีร์ทางพุทธศาสนายืนยันว่า ท้าวเวสสุวรรณผู้ซึ่งเป็นเทวราชพระองค์นี้ได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันเมื่อ ครั้งที่ จุลสุภัททะปริพาชกเกิดความสงสัยในความเป็นมาแห่ง องค์พระพุทธเจ้า ท่าน ท้าวเวสสุวรรณองค์นี้เอง ที่ได้เสด็จไปร่วมต้อนรับด้วย และ ยังเป็นประจักษ์พยาน เรื่องพระมหาโมคคัลลานะ ใช้เท้าจิกพื้นไพชยนตวิมานของพระอินทร์ จนเกิดการสั่นสะเทือนไปทั้งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สวรรค์ชั้นที่สองอันเป็นการ เตือนสติพระอินทร์อีกด้วย และก็มีความเชื่อในฤทธานุภาพอันทรงฤทธิ์ของท่านตาม ฎีกามาลัยเทวสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 1 ภาค 2 – หน้าที่ 435 ว่า

คฑาวุธ ของท้าวเวสสุวรรณนั้นเป็นยอดแห่งศาสตราวุธที่มีอานุภาพสามารถทำลายโลกใบนี้ให้เป็นจุณได้ในพริบตา
จากคติความเชื่อทางพระพุทธศาสนา จะเห็นได้ว่า ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณนั้นท่านเป็นเทพที่สำคัญยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งที่มีหน้าที่ คอยพิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าท่านท้าวสักกะเทวราชเลย
ตามวัดวาอารามต่าง ๆนั้นจะมีรูปปั้นยักษ์ 1 ตน หรือ 2 ตนบ้าง คอยยืนถือกระบองค้ำพื้น ส่วนมากจะมี 2 ตน เฝ้าอยู่หน้าประตูโบสถ์ หรือ วิหารที่เก็บของมีค่ามีพระพุทธรูป และโบราณสมบัติล้ำค่าของทางวัดบรรจุอยู่ด้านละ 1 ตนหรือไม่ก็ปรากฏอยู่ในบริเวณลานวัดหรือที่ที่มีคนผ่านไปมาแล้วเห็นโดยง่าย นั่นหมายถึงท้าวเวสสุวรรณนั่นเอง

เคล็ดการบูชาท้าวเวสสุวรรณ
จุดสักการะธูป 9 ดอก และถวายดอกกุหลาบ 9 ดอก แล้วตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณบิดา มารดา และครูบาอาจารย์ ทั้งหลาย ที่ประสิทธิประสาทวิชามาแล้วระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วท่องคาถาท้าวเวสสุวรรณดังนี้
อิติปิ โส ภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อะหัง สุคะโต นะโม พุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหัง พุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโม พุทธายะ
การจะบูชาให้ได้ผลอย่างแท้จริงต้องนำเอาหลักความดีของท่านมาน้อมนำ ปฏิบัติด้วยคือ ต้องดำรงตนให้เป็นผู้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาคอยปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ เสื่อมจากคนไม่ดีตลอดจนต้องหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริต หมั่นบริจาคทานเพื่อเป็นกุศลแก่ทั้งตัวเองและเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น อยู่ตลอดเวลา ผู้ที่ได้ทั้งบูชาด้วยการไหว้และนำคุณธรรมของท่านไปปฏิบัติด้วยจะส่งผลให้ เจริญก้าวหน้าและร่ำรวยมีความสุขอย่างแน่นอน


จากหนังสือเรื่อง ใครทำได้ (หรือได้ทำ) รวยโคตร โคตร โดย ชำนาญ การวิเศษ และจิตตะวชิระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น