วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีบูชาและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรให้ได้ผล



เรื่องที่สำคัญที่สุด ก็คือ "พลังจิต"
เพราะพลังจิตที่กล้าแกร่งมีสมาธิเป็นหนึ่งเดียวนั่นคือ แรงส่งมหาศาล
ที่จะนำแรงสัจจะอธิษฐานในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ได้ผลตามที่มุ่งหวัง
ซึ่งขอให้เข้าใจเสียก่อนว่า พลังจิตที่เราใช้เป็นแรงส่งหรือเชื่อมกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้
เป็นเพียงพลังส่งการไปขอพร ขออำนาจบุญบารมีจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เป็นการไปขอ ไม่ใช่เป็นการไปบังคับกะเกณฑ์เหล่านั้น
ซึ่งเราไม่มีอำนาจอะไรไปบังคับท่านได้ว่าท่านจะต้องช่วยหรือไม่ช่วย
และรับรองได้ว่าคนที่กำลังเกิดทุกข์นั้นไม่มีพลังจิตพอด้วย
เพียงไปขอความเมตตาจากท่านเท่านั้น !!!

พลังจิตเป็นพลังธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และในตัวเราทุกคนนั้นมี
จะมีมากหรือน้อยจะเชื่อมต่อกับท่านได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนปฏิบัติ
และฐานกำลังจิตเดิมที่มาจากกรรมดี
ที่เคยทำมาหรือมีกรรมร่วมกันมากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นหรือไม่
ในบางเรื่องต่างมีพันธะสัญญาต่อกันอยู่ ท่านอาจจะช่วยดลบันดาลในสิ่งที่เราขอความเมตตา
แต่ต้องผสมรวมกันกับกรรมของเราด้วย จึงจะสำเร็จได้
แต่ที่ไม่สำเร็จเพราะเราไม่เคยมีกรรมร่วมกับท่าน
เหมือนเราไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่รู้จักมักคุ้นกัน
ลองคิดดูว่าเขาเหล่านั้นจะช่วยเหลือเราหรือไม่ ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย
หลักการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้ผล
การที่เราไปทำการสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ควรเป็นการไปขอพร ขอบุญบารมี
ขอโมทนาพระคุณความดีของท่าน ให้ช่วยปกป้องคุ้มครอง ไม่ใช่ไปติดสินบน
เอาของไปล่อใจท่าน ทำให้ท่านมีกิเลส หรือมีกรรมร่วมกับเราอีก
ซึ่งแน่นอนว่าท่านคงไม่ต้องการและไม่ปรารถนาที่จะทำเช่นนั้นและที่สำคัญ
คนที่ไปชักชวนทำให้ท่านก่อกรรมไม่ดีเพราะเอาสิ่งของไปล่อท่าน
คนคนนั้นจะต้องได้รับกรรมที่ก่อขึ้นด้วย...ที่ท่านช่วยให้พรเพราะท่านเมตตาเราเท่านั้น
ไม่ได้หวังเครื่องเซ่นใดๆ ทั้งสิ้น

การขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดลบันดาลให้ประสบความสำเร็จนั้น
ต้องขออย่างมีสติ ต้องประกาศตัวเองก่อนว่าเราคือใคร มีศีลอะไร มีความดีอะไร
ด้วยความดีเหล่านั้น ก็ขอให้เป็นกำลังใจให้เราสร้างความดีต่อไป
การขอพรนั้นเป็นสิ่งที่ดี ขอได้ทุกโอกาสและขอได้กับเทพหรือเทวดาทุกองค์
หรือแม้แต่พระพุทธรูปก็ตาม เมื่อปฏิบัติดีอยู่ในศีลด้วยความดี
ตั้งใจมั่นศรัทธา ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นกับเรา
เคล็ดลับอีกประการหนึ่ง ในเวลาที่เรากำลังขอพรอยู่นั้น
เราต้องรวมจิตให้มีพลังเพื่อเชื่อมบุญต่อกับท่านเหล่านั้นได้
ให้สังเกตดูว่า ในช่วงที่เรามีพลังจิตกล้าแกร่งนั้น เราจะรู้สึกโล่ง ขนลุก
น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวหรือมีแสงวาบขึ้นมาในจิต
แสดงว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นท่านรับรู้แล้วในสิ่งที่เราปรารถนา
และสิ่งนั้นจะประสบหรือไม่ อยู่ที่กรรมลิขิต
แต่ความสำเร็จที่เราปรารถนานั้น เราต้องรู้ว่าที่ขอนั้นบุญหรือบาป
ผิดต่อศีลธรรมไหม ถ้าบาปก็งดไม่ต้องขอ ถ้าดีก็ทำยิ่งๆ ขึ้นไป

เวลาขอพรเราต้องศรัทธา เราเปรียบตัวเองว่าเราคือ ฝุ่น
ได้เข้าไปกราบสักการะด้วยความปิติยินดี จึงจะมีความสุข
เมื่อมีความสุข ความสำเร็จจะอยู่ที่เรา
ถ้าเราทำบาปจะมีความทุกข์ จงจำเอาไว้ว่า..
ถ้าความทุกข์เกิด ความสำเร็จจะไม่ปรากฏ
เราต้องปฏิบัติดี ทำดี อยู่ในศีลธรรม
แล้วความสุขและสิ่งที่เราปรารถนาจะอยู่กับเราแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น