วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

อานิสงส์แห่งธรรมทาน !


“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ

การให้ธรรมเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง”

ทานสูตร


[๒๗๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทาน ๒ อย่างนี้ คือ อามิสทาน ๑ ธรรมทาน ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาทาน ๒ อย่างนี้ ธรรมทานเป็นเลิศ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การแจกจ่าย ๒ อย่างนี้ คือ การแจกจ่ายอามิส ๑ การแจกจ่ายธรรม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาการแจกจ่าย ๒ อย่างนี้ การแจกจ่ายธรรมเป็นเลิศ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย การอนุเคราะห์ ๒ อย่างนี้ คือ การอนุเคราะห์ด้วย อามิส ๑ การอนุเคราะห์ด้วยธรรม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาการอนุเคราะห์ ๒ อย่างนี้ การอนุเคราะห์ด้วยธรรมเป็นเลิศ ฯ
พระพุทธเจ้าทั้งหลายได้ตรัสทานใดว่าอย่างยิ่ง ยอดเยี่ยม
พระผู้มีพระภาคได้ทรงสรรเสริญการแจกจ่ายทานใดว่าอย่างยิ่งยอดเยี่ยม
วิญญูชนผู้มีจิตเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ผู้เป็นเขตอันเลิศ รู้ชัดอยู่ซึ่งทานและการแจกจ่ายทานนั้นๆ ใครจะไม่พึงบูชา (ให้ทาน) ในกาลอัน ควรเล่า ประโยชน์อย่างยิ่งนั้น ของผู้แสดงและผู้ฟังทั้ง ๒ ผู้มีจิตเลื่อมใสในคำสั่งสอนของพระสุคตย่อมหมดจด ประโยชน์อย่างยิ่งนั้น ของผู้ไม่ประมาทแล้วในคำสั่งสอนของพระสุคต ย่อมหมดจด ฯ

จาก : พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ สุตตันตปิฎกที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน

“อกฺขรา เอกํ เอกญฺจ พุทฺธรูปํ สมํ สิยา

สร้างอักขรธรรมหนึ่งอักษร เท่ากับสร้างพระพุทธรูปหนึ่งองค์”

 

 

ชาดก อานิสงส์สร้างหนังสือ ถวายหนังสือ

อานิสงส์สร้างหนังสือ หรือถวายหนังสือ ดั่งประทีปส่องทางให้เห็นนรกและสวรรค์ ผู้นั้นจะได้อานิสงส์เพิ่มพูน กุศลจริยาเป็นเอนกอนันต์ ได้รับชัยชนะต่อจิตใจตนเอง และผู้อื่น มีความรู้ การศึกษาสูง บังเกิดผลบุญอันยิ่งใหญ่ไพศาลทั้งในชาตินี้ และชาติหน้า
ดังมีใจความว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถี ในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้า มีความประสงค์ว่า จักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดงธรรมประกาศอานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก ให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัทพระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถาม แก่พระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา จะมีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า
พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ดูกรท่านสารีบุตร ถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว เมื่อตายไปแล้วก็จักได้ เสวยราชสมบัติ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์ ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ก็จะได้เป็นพระราชา มีอนุภาพอีก ๙ อสงไขย ต่อจากนั้น ก็ได้เสวยสมบัติ ในตระกูลต่าง ๆ เป็นลำดับไป คือตระกูลพราหมณ์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวย ในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่รักใคร่ แก่คน ทั้งหลาย ที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์สุจริต ปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาด รอบรู้ทั้งทางโลก และทางธรรม ดังนี้เป็นต้น
ดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดา แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปุราณโคดม ได้สร้าง พระไตรปิฎก ไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น สมเด็จพระปุราณโคดมบรมศาสดา ทรงพยากรณ์ไว้ว่า อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งมีพระนามว่า พระสมณโคดมก็คือพระตถาคต เรานี้เองดังนี้ แลก็สิ้นสุด พระกระแสธรรมเทศนา ที่พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้

 

 

อานิสงส์แจกหนังสือธรรมะเป็นธรรมทาน 11 ประการ

ธรรมทาน เป็นเครื่องเตือนสติให้เราระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ ของสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต เป็นหนทางหนึ่ง อย่างเช่นการรู้คุณของพ่อแม่ รู้คุณแผ่นดินเกิด คุณธรรมทั้งหลายนี้ ถือว่าเป็นต้นน้ำแห่งพระธรรม(ความเป็นจริง) ที่สามารถฉุดช่วยผู้คนให้พ้นภัยเวียนได้ทัน เพราะการชี้แนะ จะด้วยกุศโลบายใดๆ ถือเป็นเป็นมหากุศลยิ่งกว่าสร้างเจดีย์แก้วเจ็ดชั้น
ขอ ให้พระธรรมอันลึกซึ้ง จงสถิตอยู่ทุกดวงจิต คอยติดตามปกป้องคุ้มครอง ช่วยเตือนสติให้บังเกิดความสำนึกรู้คุณของเหตุและรู้คุณของผล จากเจตนาด้วยกาย วาจา ใจ อันเป็นผลตอบแทนแก่บุพการีให้สมกับความเป็นมนุษย์ทั้งหลายอย่างแท้จริง

1. กรรมเวรจากอดีตชาติจะได้ลบล้าง
2. หนี้เวรจะได้คลี่คลาย พ้นภัยจากทะเลทุกข์
3. โรคภัยไข้เจ็บจากเจ้ากรรมนายเวรจะพ้นไป
4. สามีภรรยาที่แตกแยกจะคืนดีต่อกัน
5. วิญญาณของเด็กที่แท้งในท้องจะได้ไปเกิดใหม่
6. กิจการงานจะราบรื่นสมความปรารถนา
7. บุตรจะเฉลียวฉลาดและเจริญรุ่งเรือง
8. บารมีคุ้มครองลูกหลานให้อยู่เย็นเป็นสุข
9. พ่อแม่จะมีอายุยืน
10. ลูกหลานเกเรจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนดี
11. วิญญาณทุกข์ของบรรพบุรุษจะพ้นจากการถูกทรมานไปสู่สุคติ

การแจกหนังสือเป็นธรรมทาน อานิสงส์จากการให้ธรรมทาน จะเป็นไปตามความมุ่งมั่นศรัทธาและความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งผู้ให้จะสัมผัสรับรู้ได้เอง.

บุญวาสนามาจากการบริจาค


เป็นพระสูตรในพุทธศาสนาที่ได้รวบรวมพุทธโอวาทแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่
ได้ทรงตรัสถึงบุญอันสำเร็จด้วยทานให้ชาวโลกได้ประจักษ์และเข้าใจในบุญญานุภาพแห่งทานอันเป็นเหตุ
ให้มนุษย์มีสภาพชีวิตที่แตกต่างกันไปในอายุ วรรณะ สุข ยศ ฯ ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
ดั่งที่พระองค์ทรงตรัสสรรเสริญว่า ผู้ให้ทานย่อมเป็นผู้กำชัยไว้ทั้งสองโลก คือ
... เพื่อประโยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน 1
... เพื่อความสุขในสัมปรายภพ 1
ด้วยเหตุนี้ การบริจาค จึงเป็นหลักประกันชีวิตที่ดีที่สุด อันผู้มีปัญญาได้เลือกแล้ว
เมื่อบริจาคย่อมเป็น บุญ
อันเป็นที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ชีวิตตกลงไปในทางที่ชั่ว ให้ดำรงอยู่แต่ในทางที่ดีตลอดเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งบุญเป็นขุมทรัพย์ เมื่อมีอยู่ติดตัวแล้วจะอำนวยประโยชน์และความสุขคือ วาสนา มาให้อย่างมากมาย เหนือสิ่งใดเมื่อจากไปในโลกหน้า บุญก็ยังตามติดเป็นที่พึ่งที่ยึดถือให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีอีกด้วย ...
อานิสงส์แห่งธรรมทาน

พุทธพจน์:
...ดูกรสุภูติ หากชายคนหนึ่งทำทานโดยการ
ถวายทานด้วยสมบัติกองสูงเท่ากับภูเขาพระสุเมรุทั้ง
จักรวาลมารวมกัน ส่วนอีกคนหนึ่ง รับฟังคำสอนไว้
ในใจ อ่าน เรียนรู้ จดจำ แล้วสั่งสอนผู้อื่น
บุญกุศลของชายคนแรกยังไม่มากเท่าหนึ่งใน
ร้อย หนึ่งในพัน หนึ่งในแสน ของบุญกุศลที่ชายคน
ที่สองได้รับ เพราะไม่สามารถจะเปรียบกันได้เลย


บุญวาสนามาจากการบริจาคเรื่องจริงฤาอุบาย


พุทธพจน์:
ถ้าสัตว์โลกจะพึงเห็น
อานิสงส์แห่งการบริจาค
เหมือนกับที่ตถาคตเห็น
มาตรแม้นว่าใครจะมาขอศรีษะ
ก็สามารถตัดให้เขาไปได้

มิจฉาเป็นเหตุ

รู้ได้อย่างไรว่า ผลแห่งทานมีจริง
ผลแห่งการบูชามีจริง โลกนี้โลกหน้ามีจริง?


พุทธพจน์:
... ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย ผู้ที่มีวาทะอย่างนี้มีความเห็นอย่างนี้ว่า:
...ทานที่ให้แล้วไม่มีผล
...การบวงสรวงไม่มีผล การบูชาไม่มีผล
...ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดี-ทำชั่วไม่มี
...โลกนี้ไม่มี โลกหน้าไม่มี ฯลฯ
ดังนี้ เป็นอันหวังข้อนี้ได้ คือ จักดำเนินอยู่ในอกุศลธรรม คือ กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เพราะเขาเหล่านั้นไม่เห็นโทษ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองแห่งอกุศลธรรม
...ก็โลกหน้ามีอยู่จริง แต่เขากลับเห็นว่าโลกหน้าไม่มี ความเห็นของเขานั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ
...ก็โลกหน้ามีอยู่จริง แต่เขาดำริว่าโลกหน้าไม่มี ความนึกคิดของเขานั้นเป็นมิจฉาสังกัปปะ
...ก็โลกหน้ามีอยู่จริง แต่เขากล่าววาจาว่าโลกหน้าไม่มี วาจาของเขานั้นเป็นมิจฉาวาจา
...ก็โลกหน้ามีอยู่จริง เขากล่าวว่าโลกหน้าไม่มี ผู้นี้ย่อมทำตนเป็นปรปักษ์ต่อพระอรหันต์ผู้รู้แจ้งโลกหน้า
...เขาละคุณคือเป็นคนมีศีลแล้ว ตั้งไว้เฉพาะแต่โทษ คือความเป็นคนทุศีล อกุศลธรรมอันลามกเป็นอเนกเหล่านี้ย่อมครอบงำเพราะมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัยด้วยประการฉะนี้แล


บุรุษตาบอด


ถ้าเช่นนั้นแล้วมนุษย์จะรู้เห็นในสิ่งที่เหนือไปกว่า
ความสามารถที่จะรับรู้ได้อย่างไร เพราะข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้?

พุทธพจน์:

พ. ... ดูกรมาณพ เปรียบเหมือนบุรุษตาบอดแต่กำเนิดเขาไม่เห็นรูปดำ รูปขาว ไม่เห็นรูปเขียว รูปเหลือง รูปแดง รูปสีชมพู รูปที่เสมอและไม่เสมอ หมู่ดาว ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
พ. เขาพึงกล่าวอย่างนี้ว่า ไม่มีรูปดำ รูปขาว ไม่มีคนเห็นรูปดำ รูปขาว ไม่มีรูปเขียว ไม่มีคนเห็นรูปเขียว ไม่มีรูปเหลือง ไม่มีคนเห็นรูปเหลือง ไม่มีรูปแดง ไม่มีคนเห็นรูปแดง ไม่มีรูปสีชมพู ไม่มีคนเห็นรูปสีชมพู ไม่มีรูปที่เสมอและไม่เสมอ ไม่มีคนเห็นรูปที่เสมอและไม่เสมอ ไม่มีหมู่ดาว ไม่มีคนเห็นหมู่ดาว ไม่มีดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ไม่มีคนเห็นดวงจันทร์ดวงอาทิตย์
เราไม่รู้ไม่เห็นสิ่งนั้น เพราะฉะนั้นสิ่งนั้นย่อมไม่มี เมื่อเขากล่าวดังนี้ ชื่อว่ากล่าวชอบหรือมาณพ
สุ. ... ไม่ใช่เช่นนั้น ท่านพระโคดม รูปดำรูปขาวมี คนเห็นรูปดำรูปขาวก็มี รูปเขียวมี คนเห็นรูปเขียวก็มี รูปแดงมี คนเห็นรูปแดงก็มี รูปสีชมพูมีคนเห็นรูปสีชมพูก็มี รูปที่เสมอและไม่เสมอมี คนเห็นรูปเสมอและไม่เสมอก็มี หมู่ดาวมี คนเห็นหมู่ดาวก็มี ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ คนเห็นดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ก็มี เราไม่รู้ไม่เห็นสิ่งนั้น เพราะฉะนั้น สิ่งนั้นย่อมไม่มีผู้ที่กล่าวดังนี้ ไม่ชื่อว่ากล่าวชอบ ท่านพระโคดม ฯ

ดูกรพราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลาย
ผู้มีความเห็นชอบคือ มีความเห็นไม่วิปริตว่า
ผลแห่งทานที่ให้แล้วมีอยู่ ผลแห่งการบูชามีอยู่ ฯ ...
สัตว์บางพวกในโลกนี้ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
เพราะเหตุแห่งความประพฤติธรรม
ผู้มีความเห็นผิดคือ มีความเห็นวิปริตว่า
ผลแห่งทานที่ให้แล้วไม่มี ผลแห่งการบูชาไม่มี ฯ ...
สัตว์บางพวกในโลกนี้ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต และนรก
เพราะเหตุแห่งความไม่ประพฤติธรรม อย่างนี้แลฯ

อำนาจแห่งผลบุญวาสนา


พุทธพจน์:
ชนเหล่าใดมีใจผ่องใส
ให้ข้าวและน้ำด้วยศรัทธา
ข้าวและน้ำนั้นแลย่อมพระนอเขา
ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า เพราะเหตุนั้น
สมควรเปลื้องความเหนียวแน่น
อันครอบงำมลทินของใจเสีย พึงให้ทาน
บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของเหล่าสัตว์ในโลกหน้า ฯ

พุทธพจน์:
... ดูกรนายคามณี แต่ภัทรกัปนี้ไป 91 กัป ที่เราระลึกได้ เราไม่รู้สึกว่าเคยเบียดเบียนสกุลไหนๆ
ด้วยการถือเอาภิกษาที่สุกแล้วเลย
อนึ่งเล่า ครอบครัวใดใดมีฐานะมั่งคั่ง มีทรัพย์มากมีสมบัติมาก มีเงินและทองมากครอบครัว
ทั้งปวงนั้นเจริญขึ้นเพราะการให้ทาน
ผลบุญในมนุษย์โลก

เพราะเหตุไร คนบางคนจึงยากจนเข็ญใจ
ทั้งๆ ที่ทำงานหนักมาตลอด แต่บางคนไม่ต้อง
ทนลำบากมากนัก ก็มีฐานะร่ำรวยมีกินมีใช้ไปตลอด ?

พุทธพจน์:
... ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตามย่อมไม่เป็นผู้ให้ข้าว
น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัย เครื่องตามประทีป ฯลฯ
เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้นหากตายไปไม่เข้าถึงอบาย
ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์ ณ ที่ใดๆ จะเป็นผู้มีโภคะน้อย
.. ดูกรมาณพ บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตามย่อมเป็นผู้ให้ข้าว
น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย เครื่องตามประทีป ฯลฯ
เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์ ณ ที่ใดๆ จะเป็นผู้มีโภคะมาก 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น